ประวัติ เตียโก อัลกันตารา ชื่อเต็ม เตียโก อัลกันตารา โด นัสซิเมนโต
ประวัติ เตียโก อัลกันตารา โด นัสซิเมนโต (Thiago Alcántara do Nascimento) เกิด 11 เมษายน ค.ศ. 1991)เรียกสั้น ๆ ว่า เตียโก ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีกและทีมชาติสเปน
ชื่อ : เตียโก อัลกันตารา โด นัสซิเมนโต (Thiago Alcántara do Nascimento)
วันเกิด : 11 เมษายน ค.ศ. 1991
ความสูง : 1.74 ม.
สโมสรต้นสังกัด : ลิเวอร์พูล
สัญชาติ : สเปน
วัยเด็กของเตียโก อัลกันตารา
เตียโกเกิดที่อิตาลีโดยมีบิดามารดาเป็นชาวบราซิล บิดาของเขา มาซิญโญ เป็นอดีตนักฟุตบอลในชุดชนะเลิศฟุตบอลโลกและเล่นให้กับเลชเชในเซเรียอาในช่วงที่เขาเกิด เตียโกย้ายร่วมบาร์เซโลนาในวัย 14 ปี และลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 2009 หลังจากที่พาทีมชนะเลิศลาลิกาสี่สมัย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
เขาได้เซ็นสัญญากับบาเยิร์นมิวนิคด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโรใน ค.ศ. 2013 เขาพาไบเอิร์นคว้าถ้วยรางวัลถึง 16 ใบ ซึ่งรวมถึงบุนเดิสลีกา 7 สมัยและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2020 โดยแชมเปียนส์ลีกนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของทริปเปิลแชมป์
หลังจากที่พาทีมชาติสเปนรุ่นอายุไม่เกิน 19 และ 20 ปีเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปเยาวชน เขาลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกใน ค.ศ. 2011 เขาเกือบเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปนในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 แต่ได้ถอนตัวเนื่องจากบาดเจ็บที่เข่า เตียโกถูกเลือกติดทีมชาติในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 และฟุตบอลโลก 2018
ฤดูกาล 2001 – 2005
เตียโกเกิดที่ซานปีเอโตรเวร์โนตีโกในอิตาลี ซึ่งในตอนนั้น มาซิญโญ บิดาของเขา (ผู้เล่นทีมชาติบราซิลตั้งแต่ ค.ศ. 1989 ถึง 1994) เล่นให้กับเลชเช เขาเริ่มเล่นฟุตบอลเยาวชนให้กับฟลาเม็งกูในบราซิล
ต่อมาเมื่ออายุได้ 5 ขวบ เขาได้ย้ายไปสเปนพร้อมกับบิดา และเริ่มเล่นให้กับยูเรชา ทีมในแคว้นกาลิเซีย ใน ค.ศ. 2001 เขาเล่นให้กับเคลเม ในขณะที่บิดาเล่นให้กับเอลเช เขาย้ายกลับฟลาเม็งกูเมื่อตอน 10 ขวบ และใน ค.ศ. 2005 ได้ย้ายกลับสเปนอีกครั้งพร้อมเซ็นสัญญากับบาร์เซโลนา ซึ่งลูกพี่ลูกน้องของเขา มารีเอลู ดอส ซังตูส ก็เล่นให้กับสโมสรนี้
เตียโก อัลกันตารา กับบาร์เซโลน่า
ฤดูกาล 2009 – 2010
วันที่ 17 พฤษภาคม เตียโกในวัย 18 ปี ลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชุดแรกในฐานะตัวสำรองแทนเอย์ดร์ กวึดยอนแซนในนาทีที่ 74 ในนัดที่พบมายอร์กา ซึ่งบาร์เซโลนาคว้าแชมป์ลีกไปเรียบร้อยแล้วนัดนั้นเป็นการลงเล่นเพียงนัดเดียวของเขาในฤดูกาลนั้น
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 เขาลงเล่นเป็นตัวสำรองแทนยาย่า ตูเรในนาทีที่ 76 และทำประตูแรกในนามสโมสรในนัดกับราซินเดซันตันเดร์ ต่อมาเขาทำประตูที่ 3 ในนัดที่พบกับเรอัลโซซิเอดัด นัดนั้นเขาลงเล่นเป็นตัวจริงและบาร์เซโลนาก็แพ้ไป เขาจบฤดูกาล 2010–2011 ด้วยการลงเล่น 17 นัด ทำ 3 ประตูและ 3 แอสซิสต์ เขามีชื่อเป็นตัวสำรองในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2011 ที่พบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่สนามกีฬาเวมบลีย์
ฤดูกาล 2011 – 2012
เตียโกเริ่มต้นฤดูกาล 2011–2012 ด้วยการลงเล่นในซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา เลกแรก ที่พบกับเรอัลมาดริด เขาถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 58 และชาบีลงแล่นแทน เขามีชื่อเป็นสำรองในยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2011 ที่บาร์เซโลนาเอาชนะโปร์ตู เขาทำประตูในนัดเปิดสนามลาลิกาของบาร์เซโลนาที่เปิดบ้านเอาชนะบิยาร์เรอัล
ต่อมาในวันที่ 18 ธันวาคม เขาลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกที่บาร์เซโลนาเอาชนะซังตุสที่สนามกีฬานานาชาติโยโกฮามะ เตียโกทำประตูที่ห้าของบาร์เซโลนาในนัดที่เอาชนะราโยบาเยกาโน 7–0 เมื่อวันที่ 29 เมษายน
เตียโก อัลกันตารา กับบาเยิร์น มิวนิค
ฤดูกาล 2013 – 2015
วันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 เตียโกเซ็นสัญญา 4 ปีกับบาเยิร์นมิวนิคในบุนเดิสลีกาด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร บาเยิร์นมิวนิคจะจ่ายเงิน 20 ล้านยูโรโดยตรงแก่บาร์เซโลนา การย้ายตัวเกิดขึ้นแม้ว่าบาร์เซโลนาเพิ่งจะขยายสัญญากับเตียโกใน ค.ศ. 2011 ทำให้เขามีค่าปล่อยตัวสูงถึง 90 ล้านปอนด์ บาร์เซโลนาล้มเหลวในการบรรลุเงื่อนไขสัญญาเนื่องจากเขาไม่ได้ลงเล่นด้วยเวลาที่เพียงพอ ค่าซื้อตัวของเขาจึงลดลงเหลือ 18 ล้านยูโร
ผู้จัดการทีมคนใหม่ของบาเยิร์นมิวนิค เปป กวาร์ดิโอลา กล่าวก่อนที่เตียโกจะย้ายมาบาเยิร์นมิวนิคว่า “ผมต้องการเตียโก เขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ผมต้องการ ไม่มีใครอื่นนอกจากเขา”เตียโกลงเล่นนัดแรกให้กับบาเยิร์นมิวนิคในเดเอ็ฟเอ็ล ซูเพอร์คัพที่พ่ายแพ้ต่อโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ เขาลงเล่นนัดแรกในบุนเดิสลีกาในนัดที่บุกเอาชนะไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท
วันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2013 เขาทำประตูแรกให้กับบาเยิร์นมิวนิคในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2013 ช่วยให้เอาชนะรายาคาซาบลังกาจากโมร็อกโก ในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2014 เขาทำประตูแรกในบุนเดิสลีกาใส่ชตุทท์การ์ท โดยประตูนี้ได้รับการลงคะแนนให้เป็นประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน นัดที่พบกับไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท เขาสัมผัสบอลถึง 185 ครั้ง นับเป็นสถิติสูงสุดของบุนเดิสลีกา เอ็นเข่าของเขาขาดในนัดที่พบกับ 1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์ในอีกหกวันถัดมา ทำให้ต้องจบฤดูกาลด้วยการทำ 2 ประตูจากการลงเล่นในบุนเดิสลีกา 16 นัด
หลังจากที่ต้องหยุดพักเป็นระยะเวลาหนึ่งปีเนื่องจากอาการบาดเจ็บ เตียโกกลับมาลงสนามอีกครั้งในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2015 วันที่ 15 เมษายน เขาทำประตูในแชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกแรกที่บุกแพ้โปร์ตู 4 เตียโกชนะเลิศบุนเดิสลีกาสมัยที่สองกับบาเยิร์นมิวนิค เขาจบฤดูกาลด้วยการทำสองประตูจากการลงเล่น 13 นัด
ฤดูกาล 2015-2017
วันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2015 เตียโกขยายสัญญากับบาเยิร์นมิวนิคอีก 4 ปีต่อมาเขาทำประตูช่วยให้ทีมเอาชนะเฟาเอ็ฟเอ็ล โบคุม ในการแข่งขันเดเอ็ฟเบ โพคาลรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาทำสองประตูช่วยให้ทีมพลิกสถานการณ์จากที่ตามหลังยูเวนตุส 0–2 กลับมาเอาชนะได้ 4–2 ในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เขาจบฤดูกาลด้วยการทำ 4 ประตูและ 7 แอสซิสต์
เตียโกเริ่มต้นฤดูกาล 2016–2017 ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างการ์โล อันเชลอตตี ด้วยการพาทีมเอาชนะโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ จนสามารถคว้าแชมป์เดเอ็ฟเอ็ล ซูเพอร์คัพ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด วันที่ 28 เมษายน เขาขยายสัญญากับสโมสรอีก 4 ปีหรือจนถึง ค.ศ. 2021 เขาทำ 9 ประตูและ 9 แอสซิสต์ตลอดฤดูกาล
ฤดูกาล 2017–2020
อาการบาดเจ็บทำให้เตียโกไม่สามารถลงเล่นในการแข่งขันนัดแรกของฤดูกาล 2017–2018 ซึ่งเป็นเดเอ็ฟเอ็ล ซูเพอร์คัพ ต่อมาเขาถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 44 เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาในนัดที่บาเยิร์นมิวนิคบุกเอาชนะอันเดอร์เลคต์ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ยุพ ไฮน์เคิส ผู้จัดการทีม ยืนยันว่าเขาจะต้องพักยาว เตียโกกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้งในนัดที่บุกเอาชนะเฟาเอ็ฟเอ็ล ว็อลฟส์บวร์ค ในวันที่ 4 เมษายน และเขาจบฤดูกาลด้วยการทำ 7 ประตูจากการลงเล่น 31 นัด
เตียโกลงเล่นนัดแรกของฤดูกาลภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างนิคอ คอวัช เขาทำหนึ่งประตูช่วยให้ทีมเอาชนะไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท พาบาเยิร์นมิวนิคคว้าแชมป์เดเอ็ฟเอ็ล ซูเพอร์คัพได้สำเร็จ และเตียโกพาบาเยิร์นมิวนิคชนะเลิศลีกเป็นสมัยที่หกติดต่อกัน เตียโกชนะเลิศเดเอ็ฟเบ โพคาลเป็นสมัยที่สามของเขา เขาจบฤดูกาลด้วยการทำ 3 ประตูจากการลงเล่น 42 นัด บาเยิร์นมิวนิคชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกเป็นสมัยที่ 6 และจบฤดูกาลด้วยการคว้าทริปเปิลแชมป์
เตียโก อัลกันตารา กับลิเวอร์พูล
ฤดูกาล 2020-2022
ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2020 เตียโกย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 4 ปีโดยเตียโกได้สวมเสื้อหมายเลข 6 ต่อมา ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2020 เตียโกลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดแรก โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี
ในวันที่ 29 กันยายน สโมสรลิเวอร์พูลได้ประกาศว่าเตียโกได้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 อีเอฟแอลคัพ 2022 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ ลิเวอร์พูลเอาชนะในการดวลจุดโทษ 11-10 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพ สมัยที่ 9 ได้สำเร็จ
ต่อมา ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ
ติดตามข่าวสารลิเวอร์พูลได้ที่ :: เว็บลิเวอร์พูล
Facebook fanpage :: Liverpoolarea
